เครื่องรางไทย มีพกติดตัวไว้เข้า คาสิโน ของเซียนพนัน ดีนักแล

เครื่องรางไทย มีพกติดตัวไว้เข้า คาสิโน ของเซียนพนัน ดีนักแล

เครื่องราง ในแวดวงของนักเช่าบูชาแล้วนั้น ถือเป็นสิ่งที่ ผู้คนปรารถนาอยากนำมาครอบครอง เพราะจะช่วยเสริมดวง หรือเสริมบารมีให้กับผู้ถือครองเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง ของขลัง หรือ เครื่องราง ไทยต่าง ๆ ล้วนเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น

มีคำบอกเล่ามาต่อ ๆ กันมาว่า ผู้ที่ถือครองสิ่งของเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้นั้น ประสบโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง หรืออาจจะช่วยในการเสี่ยงดวงได้ดีขึ้น จึงมีผู้คนมากมาย ต้องการอยากได้สิ่งของเหล่านี้ มาบูชาไว้กับตัวเอง ทำให้สิ่งของเหล่านี้มีมูลค่ามาก และมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการ ของผู้ที่อยากจะครองครอง

ในบทความนี้จะนำพาทุกท่าน มาทำความรู้จักกับ เครื่องรางไทย ที่นิยมพกติดตัวกันในยาม ที่จะทำการเสี่ยงดวง หรือเข้าบ่อน คาสิโน กันครับ ว่าจะมีอะไรบ้างที่นิยมพกกันในสังคม นักพนัน คนไทย

เครื่องราง ที่นักเซียนพนัน มักมีไว้ครอบครอง

มักกะลีผล หรือ นารีผล

มักกะลีผล-หรือ-นารีผล

ตำนานของ มักกะลีผล หรือ นารีผล เป็น เครื่องรางไทย มีต้นกำเนิดจากนิทานชาดก เรื่อง พระเวสสันดรชาดก ครั้นเมื่อพระเวสสันดรกับพระนางมัทรี พร้อมกับกัณหาและชาลี พระโอรสธิดา ได้เสด็จออกจากเมืองตามประสงค์ของราษฎร ที่โกรธเคือง ไม่พอใจที่พระเวสสันดรทรงบริจาค ช้างปัจจัยนาค ให้แก่เมืองกลิงคราษฎร์  พระเวสสันดรได้เสด็จมาถึงเขาวงกตในป่าหิมพานต์ ก็ได้บำเพ็ญพรตที่นั้น

ครั้งหนึ่งได้มีพราหมณ์เฒ่าชื่อ ชูชก มาขอพระโอรสธิดา จากพระเวสสันดร เพื่อนำไปเป็นข้าทาส พระองค์ก็ทรงยกให้ ครั้นต่อมา ฝ่ายท้าวสักกะเทวราชทรงเล็งเห็นว่า หากมีผู้มาทูลขอพระนางมัทรีไปอีก พระเวสสันดรจะทรงลำบาก ไม่อาจบำเพ็ญเพียรได้เต็มที่ เพราะต้องหาอาหารประทังชีวิต ประกอบกับพระนางมัทรีมีรูปร่างโสภา หากมีดาบส ฤาษี หรือคนธรรพ์ มาพบเห็นเข้า อาจตบะแตก แล้วล่วงศีลได้

ท้าวสักกะเทวราช จึงเนรมิตต้นไม้วิเศษไว้รอบทิศ ห่างไกลจากที่พำนัก ของพระเวสสันดรพอประมาณ รวม 16 ต้น ต้นไม้วิเศษนี้ ออกผลที่มีรูปร่างเหมือนสตรี พอผลโตเต็มที่จะมีรูปร่างปานสาวแรกรุ่น และท้าวสักกะเทวราช จึงแปลงองค์เป็นพราหมณ์ มาทูลขอพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็ทรงปิติยินดีบริจาคให้ เมื่อรับบริจาคแล้ว ท้าวสักกะเทวราชก็ทรงกลับคืนร่างเดิม พร้อมคืนพระนางมัทรีให้ เพื่อการสำเร็จทานบารมีของพระเวสสันดร

มักกะลีผล หรือ นารีผล นั้นเมื่อผลสุกแล้ว จะกลายเป็นหญิงสาวงาม อายุราว 16 ปี ศรีษะยังมีขั้วเดิมติดอยู่ นิ้วมือทั้ง 5 ยาวเท่ากัน มีผมยาวสีทอง ตากลมโต คอเป็นปล้อง ไม่มีโครงกระดูก แต่ส่งเสียงได้เหมือนมนุษย์ เป็นที่ต้องการของเหล่า ดาบส ฤาษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ เพื่อเสพสังวาล แต่ มักกะลีผล จะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 7 วัน เท่านั้น

ปัจจุบันยังมีผู้คนยังพบเห็น นารีผล อยู่ที่หลวงพระบางของประเทศลาว ที่มีต้นไม้ ออกผลเป็นหญิงสาวตัวเล็ก คล้ายตุ๊กตาอยู่เต็มต้น เชื่อว่าชาวบ้านแถวนั้นเห็นจนชินตา และอีกหนึ่งตำนานของประเทศไทย คือจากคำบอกเล่าของ หลวงพ่อจรัญ

ในวงการนักพนัน หากใครได้ครอบครอง เครื่องราง นารีผล นี้แล้วจะมีโชคลาภเข้ามาหาผู้ที่ถือครอง เหมาะสำหรับท่านที่ต้องหาไว้บูชา เพื่อการเสี่ยงดวง

เครื่องราง เหล็กไหล

เครื่องราง-เหล็กไหล

เหล็กไหล ในมุมมองของคนทั่วไป คือ เครื่องรางไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการเสริมสิริมงคล เหล็กไหลเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติเป็นแร่เหล็กบริสุทธิ์ ตามหลักของวิทยาศาสตร์ แต่ในหลักของความเชื่อนั้น เหล็กไหล มีพลังพิเศษและอิทธิฤทธิ์มากมาย

ระดับของ เหล็กไหล ก็มีส่วนสำคัญในการแบ่งพลังอำนาจ ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับ ได้แก่ ตัวเหล็กไหล รังเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ในส่วนของการมีไว้ครอบครองนี้ จะต้องเป็นผู้มีบุญ วิชาอาคมแกร่งกล้าพอ ถึงจะสามารถครอบครองได้ ตามหลักความเชื่อ

ด้วยอำนาจอิทธิฤทธิ์ที่มีของ เหล็กไหล นี่เอง ทำให้มีผู้สนใจ อยากจะเป็นเจ้าของมากมาย หากเป็นคนชอบเสี่ยงดวงแล้วนั้น ก็ควรหามาไว้บูชาอย่างยิ่ง

เครื่องราง บ่วงนาคบาศ

เครื่องราง บ่วงนาคบาศ

ในตำราโบราณ มีความเชื่อถือกันมา ตั้งแต่สมัยโบราณกาลว่า บ่วงนาคบาศ มีพุทธคุณจัดเป็นสุดยอด เครื่องราง แห่งโชคลาภป้องกันภัย กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักหมดจักสิ้น เด่นด้านการเสี่ยงโชคเป็นที่สุด

บ่วงนาคบาศ ตามตำราแล้วมีชื่อเรียกว่า ศรของอินทรชิต เป็นอาวุธที่ พระพรหมประทานให้อินทรชิต แต่ในความเป็นจริง ปัจจุบันนั้นเรียกกันว่า งูกินหาง ซึ่งงูจะมีพฤติกรรมสุดแปลก ที่ว่าด้วยก่อนที่จะตาย จะกินหางตัวเองไปเรื่อย ๆ จนลำตัวเป็นวงกลม เกิดขึ้นได้ทั้งงูตัวเดียวหรืองู 2 ตัว ขึ้นไป ที่กินหางซึ่งกันและกัน

ถือเป็นสุดยอด เครื่องรางไทย ที่พบเห็นได้โดยทั่วไป มีไว้บูชาเสี่ยงโชค กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักหมดจักสิ้น

คาถาบูชาเสี่ยงโชค : โอม เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อุ มะอะ โชคลาภจงบังเกิด

จิ้งจกสองหาง

จิ้งจกสองหาง

จิ้งจกหากมีสองหางแล้ว โบราณถือว่าเป็นสัตว์นำโชค เชื่อกันว่า หากบ้านใดมีจิ้งจกสองหางแล้วจะมีโชคมีลาภ ทำมาค้าขายคล่อง เงินทองไหลมาเทมา ดังนั้นหากจิ้งจกสองหาง เมื่อมันตาย มักจะนำมาใส่กรอบ แล้วพกติดตัวเพื่อเป็นเครื่องรางนำโชค

ซากจิ้งจกที่มีส่วนหางเป็นแฉก มีความเชื่อว่าจิ้งจกนี้ จะนำโชคลาภมาให้ คนสมัยโบราณมักจะนำซากจิ้งจกนี้ ไปเลี่ยมกรอบ เพื่อใช้เป็นเครื่องรางพกพาติดตัว ซึ่งโดยทางวิทยาศาสตร์กล่าวว่า หางที่สองอาจเกิดจาก ความผิดปกติของยีนในตัวจิ้งจก จึงมีกระดูกอ่อนเล็ก ๆ อีกชิ้นหนึ่ง ยื่นออกมาจากบริเวณปลายหางเล็กน้อย มองเห็นเป็นสองแฉก ซึ่งใน 100 ตัวอาจจะพบเจอจิ้งจกพิสดารนี้ สัก 2 – 3 ตัว ในทางความเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จิ้งจกสองหางถือว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่มีไว้ในครอบครอง 

ทางด้านพระเวทย์วิทยาคม มีการบันทึกศาสตร์ของจิ้งจกสองหางนี้ไว้เป็นรูปยันต์ หรือตำราพระเวทย์สายภาคกลาง ก็มีการบันทึกถึงยันต์จิ้งจกสองหางนี้ไว้ และเกจิอาจารย์จึงมักนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง 

จากบทความนี้ ได้นำความเชื่อของ เครื่องรางของคนไทย มาบางส่วนเท่านั้น ยังมี เครื่องรางไทย อีกมากมาย ที่คอยช่วยเสริมบารมี ให้กับผู้ที่มีไว้ครอบครอง ในด้านการเสี่ยงโชค หรือในด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ผมจะนำความเชื่อเรื่อง เครื่องราง ต่าง ๆ มานำเสนออีกในครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นด้านของการเสี่ยงโชค การหากำไรจากบ่อน คาสิโน หรือ คาสิโนออนไลน์ หรือแม้กระทั่งสูตรเกม และการเล่นเกมที่มีอยู่ใน คาสิโนออนไลน์ สามารถติดตามอ่านบทความในเรื่องราวต่าง ๆ ของเราได้ที่ UFACasino และสามารถเข้ามาแสดงความเห็น เกี่ยวกับเว็บบอร์ดของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *